เรื่อง คิดแล้วรวยอย่างเศรษฐีอเมริกัน จากหนังสือ The millionaire mind ผู้แต่งคือ Thomas Stanley ข้อมูลในการเขียนมาจากการสัมภาษณ์บรรดาเศรษฐีอเมริกันแบบ dept interview เพื่อหาความเหมือนกันในแง่ต่างๆ ของพวกเขาเหล่านั้น
ลักษณะที่เหมือนกันของบรรดาเศรษฐีอเมริกัน
1. ไม่มีปัญหาทางการเงิน
พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย เช่น ซ่อมแซมของที่เสียเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ แต่งตัวอย่างง่ายๆ ไม่หรูหรา
กินอยู่อย่างประหยัดและรู้คุณค่าของเงิน พวกเขาเชื่อว่า ถ้าได้เงินมามาก แต่ก็ใช้จ่ายมาก แบบนี้เรียกว่าจน ต้องหาได้มาก-ใช้จ่ายน้อย จึงเรียกว่ารวย
2. ไม่เป็น workaholic
เขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน และญาติ ไม่มุ่งแต่ทำงาน เขาจะใช้ชีวิตกันอย่าง enjoy life สร้างดุลยภาพระหว่างงานและความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เพราะพวกเขาคิดแล้วว่า คนที่เขามีสันทนาการด้วยนั้นไม่วันใดก็วันหนึ่งต้องมาเป็นลูกค้าของเขาบ้าง
หรือมาเป็น supplier ให้เขาบ้างเป็นต้น
3. ไม่ได้ร่ำรวยมาแต่กำเนิด
พวกเขาฝ่าฟันมาด้วยตนเอง และรวยได้ภายใน 1 generation และที่สำคัญพวกเขารวยก่อนอายุ 45 ปี ปัจจัยที่เกื้อหนุนให้คนตะวันตกมีโอกาสประสบความสำเร็จด้วยตนเองก็คือ วิธีการเลี้ยงดูลูก เขาจะเริ่มปล่อยให้ลูกพึ่งตนเองตั้งแต่อายุประมาณ 17-18 ปี
ทำให้ลูกมีความเป็นผู้ใหญ่ และกล้าตัดสินใจด้วยตนเอง นอกจากนั้นสังคมตะวันตกมีกฎหมายที่แข็งแรง ทำให้ผู้ที่จะดำเนินธุรกิจไม่ต้องรอร่วมหุ้นแต่เฉพาะกับญาติพี่น้องที่ไว้ใจ ได้เท่านั้น เขาสามารถดึงเอาคนเก่งๆ มาร่วมลงทุนด้วยได้ เพราะเขาเชื่อว่าหากเกิดปัญหากฎหมายจะช่วยจัดการทุกอย่างได้
4. ไม่ได้มีสติปัญญามากนัก
ส่วนมากได้ GPA ประมาณ 2.9 เท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขาได้จากมหาวิทยาลัยก็คือ
รู้คุณค่าของการทำงานหนัก เพราะเขาต้องตรากตรำมากตอนเรียน ทำให้ไม่ย่อท้อง่ายๆ เมื่อทำธุรกิจ
ความสามารถในการเข้าสังคม พวกเขาจะผูกสัมพันธ์กับหลายๆคน ทำให้กลายเป็นคนที่ดูคนออกว่าใครควรคบ ใครไม่ควรคบ ใครที่เชื่อถือได้ และใครที่ควรจะทำงานด้วย
ได้ รู้จักตนเอง รู้ว่าตนเองชอบและไม่ชอบอะไร ทุกคนต่างบอกว่าพวกเขาประสบความสำเร็จจากการที่ได้งานที่พวกเขารัก และมีความถนัดเหนือผู้อื่น ช่วงเวลาที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเป็นช่วงแห่งการแสวงหาตนเอง และช่วง 20 ปีหลังจากจบจากมหาวิทยาลัยเป็นช่วงการขุดคุ้ยข้อมูลต่างจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในด้านนั้นๆ
5. รักงานที่ทำและกล้าเสี่ยง
เพราะงานที่เขาทำเป็นสิ่งที่เขารักมันจริงๆ จึงทำให้โอกาสในการผิดพลาดมีไม่มากนัก ดังนั้นเขาจึงกล้าเสี่ยงกับมัน เขากล้าเพราะเขามีความชำนาญและความมั่นใจ
6. มีศีลธรรม พวกเขาเชื่อว่าผู้บริโภคฉลาด
ถ้าผู้บริโภคถูกหลอกเขาจะไม่กลับมาเป็นลูกค้าของเราอีกพวกเขาจึงเลือกที่จะ เป็นคนไม่หลอกลวง ซึ่งนั่นก็เพราะพวกเขามองเห็นผลของการหลอกลวงนั้น พวกเขาเชื่อว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จจะต้องมีความหยิ่งในเกียรติและ ศักดิ์ศรี ไม่หลอกตนเองและคนอื่น
ปัจจัยแห่งความสำเร็จของเศรษฐีอเมริกัน
1. มีทักษะในการเข้ากับคนอื่น เนื่องจากคนที่จะทำงานใหญ่ได้นั้นต้องมี Teamwork ต้องสามารถดึงเอาคนเก่งมาทำงานกับเราได้
มีความเป็นผู้นำสามารถโน้มน้าวให้ลูกน้องเห็นพ้องกับเรา
มีความเป็นผู้นำสามารถโน้มน้าวให้ลูกน้องเห็นพ้องกับเรา
2. สามารถรับมือกับพวกที่ชอบวิจารณ์เราได้ คือเลือกฟังแต่เฉพาะคนที่บอกข้อบกพร่องพร้อมแนวทางแก้ไขและฟังคนที่มีอุดมการณ์หรือเคยเดินบนทางที่เรากำลังจะเดินเท่านั้น
3. มี Integrity เป็นคนที่มีความซื่อตรงกับตนเอง และกับคนอื่น คนที่มีศีลธรรมนั้นจิตจะตั้งตรง จิตที่ตั้งตรงจึงมีพลัง ในเรื่องการเลือกคู่ครองก็มีความสำคัญเพราะคู่ครองนั้นจะสามารถเป็นทั้ง อิทธิพลในทางดี และทางไม่ดีให้กับเรา ถ้าคู่ครองเป็นคนไม่ดีก็จะทำให้เราเกิดความคับข้องใจอันจะยังผลกระทบไปสู่ การงานของเราด้วย ทำให้งานไม่ประสบความสำเร็จ
4. Creative Intelligence หรือความสามารถในการคิดเชิงสร้างสรรค์
นั่นก็คือพวกเขาจะสามารถมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจที่คนทั่วๆไปมองไม่เห็น พวกเขารู้ได้โดยสัญชาติญาณ การที่พวกเขาฝึกคิดอย่างมีเหตุมีผลมาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เขามองเห็นปัญหาของคนทั่วไปและพยายามเสนอทางแก้ไขจึงได้เกิดเป็นสินค้า และบริการใหม่ๆขึ้น ทำให้เขามีโอกาสทางธุรกิจที่เหนือกว่าคู่แข่ง
5. มีระเบียบวินัย และมีเป้าหมาย พวกเขาจะใช้พลังงานทั้งหมดที่มีบวกกับความขยันและอดทนเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายนั้น
5. มีระเบียบวินัย และมีเป้าหมาย พวกเขาจะใช้พลังงานทั้งหมดที่มีบวกกับความขยันและอดทนเพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายนั้น
พวกเขารู้ว่าในช่วงชีวิตตอนนั้นๆ พวกเขาควรทำอะไร และไม่ควรทำอะไร พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยให้สภาพแวดล้อมมาทำให้จิตใจปรวนแปรได้ และเขาจะมีเข็มทิศชี้บอกทางตลอดว่ากำลังเดินมาถูกทางหรือไม่ ซึ่งก็คือสตินั่นเอง
6. มี EQ มากกว่า IQ คือ เป็นนักสังเกต นักดูคน วิเคราะห์คน นอกจากนั้นในทุกนาทีเขาสามารถบังคับใจตนเองให้คิดแต่เรื่องที่จะทำให้เขา ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย เขาจะไม่เอาเวลาอันมีค่าไปคิดเรื่องไร้ประโยชน์เลย (Positive Thinking)
เพิ่่มเติม
ถึง แม้จะร่ำรวยทั้งเงินทองและชื่อเสียงชนิดหาตัวจับยาก แต่ทุกวันนี้ CEO หนุ่มแห่ง Facebook ยังคงใช้ชีวิตสมถะไม่แตกต่างจากเดิม
เขาชอบสวมสเวตเตอร์เชิ้ตสีน้ำตาล กับกางเกงสแล็กสีกากีง่าย ๆ
และรองเท้าแตะอาดิดาสคู่โปรด
ยังคงเช่าอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ อยู่ใกล้ออฟฟิศทำงานย่าน พาโล
อัลโต ซึ่งเป็นซิลิคอน วัลเลย์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เหมือนเมื่อครั้งเริ่มก่อตั้ง
Facebook ใหม่ ๆ ภายในห้องมีแค่ฟูกนอนราคาถูก โต๊ะทำงานตัวเดียว
กับเก้าอี้สองตัว
ส่วนอาหารเช้าของมหาเศรษฐี ก็ยังเป็นซีเรียลใส่นมในชามกระดาษกับช้อนพลาสติก
และ ใครจะเชื่อว่าเขายังขี่จักรยาน หรือไม่ก็เดินไปทำงานทุกวัน !!!
เห็นไหมครับว่า คนรวยระดับโลกตั้งแต่หนุ่ม โดยไม่โกงใครใช้เวลาสร้างตัวด้วยสมอง เพียง ๖ ปี เท่านั้นก็ยังมี แถมยังใช้ชีวิตสมถะ เช่า อพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ
อยู่ และขี่จักรยานหรือไม่ก็เดินไปทำงานทุกวันในทุกวันนี้
รวยล้นฟ้าแล้ว ทำอะไร ๆ มักน่ารักไปหมดเลย !!!
ดูจบแล้วรีบกลับไปที่ email ด่วน เรารอคุณอยู่ค่ะ
ใครที่เพื่อนส่งต่อเมล์นี้มาให้ แล้วต้องการรับเรื่องราวดีๆจากเราอีกมากมาย คลิกค่ะ
ใครที่เพื่อนส่งต่อเมล์นี้มาให้ แล้วต้องการรับเรื่องราวดีๆจากเราอีกมากมาย คลิกค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น