ทำไมทำคีโมถึงเจ็บ ทั้ง ๆ ที่เป็นการให้ยา
ผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัดในขณะที่ให้อยู่จะไม่มีอาการเจ็บ แต่ว่าหลังจากกลับไปบ้านแล้ว 2–3 วัน ยาบางชนิดอาจทำให้มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย กระดูก กล้ามเนื้อได้ ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการไม่มากนักแต่ก็มีบางคนอาจจะปวดมากเช่นกัน ปกติหมอก็จะให้ยาแก้ปวดมารับประทานให้บรรเทาได้ อาการเหล่านี้จะเป็นแค่ชั่วคราวไม่นานก็หายไป แต่คนที่ปวดมากๆ จนลุกไม่ไหว ทำอะไรไม่ได้เลย ก็อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนชนิดของยาในรอบต่อไป
1. มีวิธีป้องกันรักษาอาการข้างเคียงของเคมีบำบัดหรือไม่
มีหลายวิธีและได้ส่วนใหญ่ให้ผลเป็นที่พอใจ ทำให้อาการข้างเคียงต่างๆ นั้นดีขึ้นมาก เช่น ยาแก้อาเจียนยุคใหม่ สามารถระงับอาการได้เกือบทั้งหมด การเลือกใช้ยาที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยก็เป็นสิ่งสำคัญ การใช้ยากระตุ้นการทำงานของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง การใช้ยาที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเซลล์ปกติไม่ให้ได้รับพิษ หรือผลกระทบจากยาเคมีบำบัดมาใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด
มีหลายวิธีและได้ส่วนใหญ่ให้ผลเป็นที่พอใจ ทำให้อาการข้างเคียงต่างๆ นั้นดีขึ้นมาก เช่น ยาแก้อาเจียนยุคใหม่ สามารถระงับอาการได้เกือบทั้งหมด การเลือกใช้ยาที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยก็เป็นสิ่งสำคัญ การใช้ยากระตุ้นการทำงานของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง การใช้ยาที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเซลล์ปกติไม่ให้ได้รับพิษ หรือผลกระทบจากยาเคมีบำบัดมาใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัด
2. อาการข้างเคียงที่เห็นได้ชัดเจนในระหว่างการให้ยาคือ
ที่เห็นได้ชัดเจนแบบทันทีทันใดที่เจอบ่อยที่สุด อาการคลื่นไส้ อาเจียน บางคนมีอาการแพ้ยาเคมีบางชนิดรุนแรง คือ อึดอัด หายใจไม่ออก หายใจไม่ทั่วท้อง ความดันต่ำ แต่อาการรุนแรงเหล่านี้มีโอกาสเกิดน้อยมากและจะเกิดกับยาบางตัวที่ให้ในรูปของการฉีดเข้าเส้นเลือดเท่านั้นครับ
ที่เห็นได้ชัดเจนแบบทันทีทันใดที่เจอบ่อยที่สุด อาการคลื่นไส้ อาเจียน บางคนมีอาการแพ้ยาเคมีบางชนิดรุนแรง คือ อึดอัด หายใจไม่ออก หายใจไม่ทั่วท้อง ความดันต่ำ แต่อาการรุนแรงเหล่านี้มีโอกาสเกิดน้อยมากและจะเกิดกับยาบางตัวที่ให้ในรูปของการฉีดเข้าเส้นเลือดเท่านั้นครับ
3. อาการผมร่วง สาเหตุของผมร่วงนั้นเกิดมาจากอะไร มีเซลล์หรือสารประกอบในยาที่มีผลกระทบต่อการหลุดร่วงของเส้นผมหรือไม่
ยาเคมีส่วนใหญ่ก็จะทำให้ผมร่วงแต่ไม่ถาวร ระหว่างให้ยาเคมีเมื่อผมไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่มันจะมีแต่ร่วงกับร่วง แต่หลังจากหยุดยาเคมีแล้ว 2 เดือน มันก็จะงอกขึ้นมาใหม่เหมือนเดิมได้ หมอมักจะแจ้งผู้ป่วยให้ทราบก่อนให้ยาเสมอ แนะนำว่าช่วงให้ยาอาจจะพิจารณาใส่วิก ใส่หมวก หรือใช้ผ้าโพกศรีษะไปก่อน
ยาเคมีส่วนใหญ่ก็จะทำให้ผมร่วงแต่ไม่ถาวร ระหว่างให้ยาเคมีเมื่อผมไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่มันจะมีแต่ร่วงกับร่วง แต่หลังจากหยุดยาเคมีแล้ว 2 เดือน มันก็จะงอกขึ้นมาใหม่เหมือนเดิมได้ หมอมักจะแจ้งผู้ป่วยให้ทราบก่อนให้ยาเสมอ แนะนำว่าช่วงให้ยาอาจจะพิจารณาใส่วิก ใส่หมวก หรือใช้ผ้าโพกศรีษะไปก่อน
4. ทำไมเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และเกล็ดเลือด ถึงต่ำกว่าปกติ
การได้รับยาเคมีบำบัด อาจทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดน้อยหรือต่ำกว่าปกติได้ เพราะผลจากการกด การทำงานของไขกระดูก
ภาวะ เม็ดเลือดขาวน้อย ทำให้การต้านทานต่อโรคลดลงเกิดการติดเชื้อได้ง่าย ควรดูแลรักษาความสะอาดของร่างกาย หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อต่างๆ เช่น หัด หวัด อีสุกอีใส หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด หมั่นสังเกตอาการติดเชื้อ เช่น มีไข้ ไอ ปัสสาวะแสบขัด ถ่ายเหลว หากมีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์ก่อนนัดภาวะ เม็ดเลือดแดงน้อย ทำให้มีอาการซีด เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ควรพักผ่อนให้มาก หากซีดมากอาจให้เลือดทดแทนหรือให้ยากระตุ้นเม็ดเลือดแดง
ภาวะ เกล็ดเลือดน้อย ทำให้มีเลือดออกง่าย หยุดยาก มีจุดและจ้ำเลือดตามตัว ขณะที่เกล็ดเลือดต่ำควรระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุ การใช้มีดหรือของมีคม อย่าซื้อยามารับประทานเองโดยเฉพาะยากลุ่มแอสไพริน ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนิ่มๆ ระวังอย่าให้ท้องผูก หากมีเกร็ดเลือดต่ำมากแพทย์จะให้เกร็ดเลือดทดแทน
5. มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ อย่างไร
ในเพศหญิงประจำเดือนจะมาไม่สม่ำเสมอหรือขาดช่วงปกติ ส่วนเพศชายอาจจะทำให้เป็นหมันชั่วคราว และแนะนำว่าควรคุมกำเนิดในขณะที่ให้ยา เพราะยาเคมีก็มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ด้วย
ในเพศหญิงประจำเดือนจะมาไม่สม่ำเสมอหรือขาดช่วงปกติ ส่วนเพศชายอาจจะทำให้เป็นหมันชั่วคราว และแนะนำว่าควรคุมกำเนิดในขณะที่ให้ยา เพราะยาเคมีก็มีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ได้ด้วย
6. ส่งผลกระทบด้านอารมณ์ อย่างไรบ้าง
มีแน่นอนครับ ส่วนใหญ่ก็จะเครียด วิตกกังวลไปต่างๆ นานาทั้งเรื่องตัวโรคเอง เรื่องการรักษาและการให้ยา ยาบางชนิดก็ทำให้คนไข้นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ร้อนวูบวาบ บางคนต้องทานยาคลายครียด หรือใช้วิธีอื่นช่วย เช่น ทำสมาธิ อ่านหนังสือ สวดมนต์ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะปรับตัวได้ดี
มีแน่นอนครับ ส่วนใหญ่ก็จะเครียด วิตกกังวลไปต่างๆ นานาทั้งเรื่องตัวโรคเอง เรื่องการรักษาและการให้ยา ยาบางชนิดก็ทำให้คนไข้นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ร้อนวูบวาบ บางคนต้องทานยาคลายครียด หรือใช้วิธีอื่นช่วย เช่น ทำสมาธิ อ่านหนังสือ สวดมนต์ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะปรับตัวได้ดี
คำแนะนำ สำหรับแก้อาการแพ้คีโม (Woman's Story)
การเกิดผลข้างเคียงของผู้ป่วยที่ได้รับการบำบัดด้วยเคมี หรือ คีโม นั้น จะมีอาการมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่ใช้ และสภาพร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งมีวิธีแก้ไขตามอาการของผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ อาจจะช่วยให้ผ่อนหนักให้เป็นเบา
อาการที่มักจะพบบ่อยครั้งก็คือ การอาเจียน ซึ่งแพทย์จะให้ยาแก้อาเจียนมาให้รับประทาน ส่วนอาหารจะงดเว้นอาหารทอด รสหวาน น้ำมันมาก และกลิ่นฉุน อีกทั้งควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ เคี้ยวให้ละเอียด บางรายหากมีอาการรู้สึกปวดแสบระหว่างปัสสาวะ ปัสสาวะบ่อย หรือมีเลือดปน พร้อมมีอาการไข้ ควรดื่มน้ำสะอาด อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรือเลือกดื่มน้ำผลไม้ น้ำชาชงอ่อน ๆ หรือน้ำซุปร่วมด้วยก็ได้
ส่วนใครที่ท้องเสีย ควรงดดื่มนมและไม่รับประทานอาหารจำพวกเส้นใยสูง ตรงกันข้ามหากท้องผูก ให้พยายามรับประทานอาหารกากใยสูง ส่วนผู้ที่ริมฝีปากมีอาการอักเสบ เยื่อบุช่องปากแห้ง สีซีด มีเลือดออก ภายในช่องปากมีแผล ให้บ้วนปากด้วยน้ำอุ่นผสมเกลือ ร่วมกับการรับประทานอาหารรสจืด ใช้ครีมทาริมฝีปากไม่ให้แห้งแตกก็น่าจะเพียงพอ
นอกจากนี้ ก็จะมีอาการผมร่วง ซึ่งควรสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยนด้วยน้ำเย็น สวมหมวกเวลาออกกลางแจ้ง งดการใช้ไดร์เป่าผม หวีหรือแปรงผมเบา ๆ แต่ถ้าอาการทั้งหมดที่ว่ามานี้ยังเกิดขึ้นอยู่ต่อเนื่อง หรือรุนแรงให้รีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน
เบต้ากลูแคน
ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยค้นพบ
http://betaglucan1316.igetweb.com/index.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น